วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สอบ

ปรากฏการณ์ เอล นิญโญ ลมสินค้าจะมีกำลังอ่อนลง กระแสน้ำอุ่นจะไหลย้อนมาทางตะวันออก ก่อให้เกิดฝนตกหนักในประเทศเปรูและเอกวาดอร์
ปรากฎการณ์ ลา นิญญา อุณหาภูมิผิวน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้ส้นศูนย์สูตรเกิดแปรปรวนและเย็นขึ้นกว่าปกติ ทำให้กระแสลมสินค้าตะวันออกมีกำลังแรง ส่งผลให้ประเทศอินโดนีเซีย และออสเตรเลียทำให้เกิดฝนตกหนัก
เอล นิญโญ  เป็นปรากฎการณ์ที่ทำให้เกิดฝนตกหนักในทวีปอเมริกาใต้และเกิดความแห้งแล้งในออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในทางกลับกัน ลา นิญญา ทำให้เกิดความแห้งแล้งทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ และเกิดฝนตกหนักในออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สึนามิ (Tsunami) มาจากภาษาญี่ปุ่น เพราะว่าคำว่า  สึ แปลว่า ท่าเรือ นามิแปลว่า คลื่น
คลื่นสึนามิ ไม่ใช่คลื่นกระแสน้ำเนื่องจากคลื่นกระแสน้ำจะเกิดโดยพลังลม แต่คลื่นสึนามิโดยทั่วไป การเกิดจากแผ่นดินไหวใต้ทะเล แผ่นดินใต้ทะเลเคลื่อนตัว ภูเขาไฟใต้ทะเลระเลิดหรือจากวัตถุนอกโลก เช่นดาวหางหรืออุกกาบาตรขนาดใหญ่ตกสู่พื้นทะเลหรือมหาสมุทรบนผิวโลก
ก๊าซเรือนกระจกตัวหนึ่งที่สำคัญ ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อใช้งาน มนุษย์เองเป็นผู้ปล่อยก๊าซนี้ออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อนำพลังงานมาใช้
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง โลกได้แบ่งออกเป็นสองค่าย ต่อสู้กันระห่างการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำกลุ่มกับการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ที่มีสหภาพโซเวียตเป็นผู้นำกลุ่ม
ดังนั้นสังคมโลกในปัจจุบันจึงเป็นโลกที่มนุษย์สามารถข้ามพรมแดนของประเทศ สามารถเชื่อมโยงและทะลุการีเวลาได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารในลักษณะที่ไร้พรมแดนที่ส่งผลกระทบต่อสังคมและวัฒนธรรมด้วยการครอบโลกทางวัฒนธรรม อันเนื่องมาจากระบบสื่อสารไร้พรมแดน ก่อให้เกิดกระแสวัฒนธรรมโลก (Neo-Westernization)การครอบงำทางด้านความคิด การมองโลก การแต่งกาย การบริโภคนิยมแพร่หลายเข้าครอบคลุมเหนือวัฒนธรรมของประชาคมทั่วโลก ผลที่ตามมาคือ เกิดระบบผูกขาดไร้พรมแดน ส่งผลให้เกิดหมู่บ้านโลก (Global Village) เป็นสังคมโลกไร้พรมแดน โลกทั้งโลกเป็นเสมือนหมู่บ้านเดียวกัน หมายถึงหากมีสิ่งใดมากระทบประเทศหนึ่งก็ย่อมกระทบไปถึงประเทศอื่น ๆ ด้วย อีกทั้งยังเกิดการแสวงหากำไรแบบใหม่ที่ไปกระจุกตัวอยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจนก่อให้เกิดการพองตัวของทุนอย่างรวดเร็ว และในประการสุดท้ายเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นก็ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น
ถึงแม้ว่า กระบวนการโลกาภิวัตน์ คือ กระบวนการเศรษฐกิจโลกไร้พรมแดนหรือ กระบวนการทำให้โลกเป็นหนึ่งเดียวหรือ อาจเรียกได้ว่า ลัทธิการครอบโลก “ (Globalization) นั่นเอง
ลัทธิการครอบโลกหมายถึง การใช้ความเหนือกว่าของทุน เทคโนโลยี การบริหารจัดการ และอิทธิพลทางการเมือง ผ่านกลไกต่าง ๆ ขององค์กรระหว่างประเทศมาบีบให้ประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีอำนาจต่อรองน้อยกว่า ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ของประเทศที่มีก้าวหน้ากว่า ภายใต้แนวคิด  “การค้าเสรีประชาชนผู้ด้อยโอกาสทั้งโลกกำลังตกเป็นเหยื่อของลัทธินี้ โดยรัฐบาล และกลุ่มผลประโยชน์ในประเทศกำลังพัฒนาได้กลายเป็นเครื่องมืออย่างไม่รู้ตัวหรือด้วยความสมยอม
จนกระทั่งทศวรรษที่ 1970 (ประมาณปี พ.ศ.2513-2518) ลัทธิทุนนิยมก็เริ่มประสบปัญหาใหญ่ 2 ประการ คือ ประการแรก โรงงานอุสาหกรรมผลิตสินค้าออกมาล้นหลามเกินความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศ เรียกว่า มี การผลิตเกินขนาดประการที่สอง บริษัทใหญ่ ๆ หลายบริษัทสะสมกำไรได้เป็นจำนวนมหาศาล แต่ไม่มีที่ทางให้ลงทุนได้ เรียกว่ามี การสะสมทุนเกินขนาด
 ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์นั้นพัฒนามาจากแนวความคิดทางเศรษฐกิจของคาร์ล มาร์ค (Karl Marx)
ระบบเศรษฐกิจแบบผสม (Mixed Economy) หมายถึง ระบบเศรษฐกิจที่รวมเอาลักษณะสำคัญของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมและสังคมนิยมเข้าไว้ด้วยกัน ระบบเศรษฐกิจแบบ หรือที่เรียกกันโดยทั่ว ๆ ไปอีกอย่างหนึ่งว่า ระบบเศรษฐกิจแบบ ทุนนิยมใหม่เป็นระบบเศรษฐกิจที่ทั้งรัฐลาลและเอกชนรับผิดชอบร่วมกันในการตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
กลุ่มโลกที่ 1 ประเทศที่พัฒนาแล้ว เป็นประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่อบุคคลสูงมาก และมีการพัฒนาอุตสาหกรรมก้าวหน้ามาก เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น
กลุ่มโลกที่ 2 ประเทศสังคมนิยม เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลีเหนือ คิวบา
กลุ่มโลกที่สาม ประเทศด้อยพัฒนา  เป็นประเทศที่ยากจน เช่น ประเทศในทวีปแอฟริกา  ละตินอเมริกา   เอเชีย
สมาคมอาเซียนจัดตั้นขึ้นเมี่อปี พ.ศ. 2510 โดยมีประเทศสมาชิกที่ร่วมก่อตั้นในขณะนั้น 5 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์
GMS (Greater Mekong Sub-Region)
โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เป็นความร่วมมือของ 6 ประเทศ คือ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน(ยูนาน)
ACMECS (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy)
ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง( ACMECS : Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy)หรือชื่อเดิม ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า ไทย
BISTEC (Bangladesh-India – Sri Lanka – Thailand Economic Cooperation) BIMSTEC
เป็นกรอบความร่วมมือระว่าง 7 ประเทศ คือ บังกลาเทศ ภูฎาน อินเดีย พม่า เนปาล ศรีลังกา และ ไทย
IMF (International Monetary Eund)
มีบทบาทในการจัดหาทุนระยะยาวอัตราดอกเบี้ยต่ำ ให้แก่ประเทศที่ประสบปัญหาจากภัยสงครามเพื่อใช้ในการบูรณะและพัฒนาเศรษฐกิจของตน
FTA (Free Trade Agreement ) FTA

หมายถึง การรวมกลุ่มเศรษฐกิจลักษณะประเทศสมาชิก มีเป้าหมายจะลดภาษีศุลกากรระหว่างกันภายในกลุ่มให้เหลือน้อยที่สุด หรือเป็น 0%

วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557


สูตรซาลาเปา

ซาลาเปา02.jpg  

ส่วนผสมแป้งซาลาเปา
1. แป้งเค้กตราบัวแดง 300 กรัม
2. ผงฟู 2+1/2 ช้อนชา
3. ยีสต์หวาน 2+1/2 ช้อนชา
4. น้ำเปล่า 170 กรัม
5. น้ำตาลทราบ 75 กรัม
6. เนยขาว 2 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือ เล็กน้อย (หยิบมือ)
วิธีทำ
1. ร่อนแป้งและผงฟู แล้วใส่ยีสตีผสมจนเข้ากัน
2. นำน้ำตาลและเกลือ ละลายในน้ำเปล่า ค่อยๆเติมลงในส่วนผสมแป้ง นวดพอจับตัวกันเป็นก้อน
3. เติมเนยขาว แล้วนวดจนเนียน แป้งไม่ติดมือและไม่ติดอ่างผสม เอาผ้าคลุม พักไว้ 15 นาที
4. นวดไล่อากาศประมาณ 1 นาที แล้วคลึงแป้งเป็นเส้น ตัดแบ่งก้อนละ 25-30 กรัม
5. คลึงเป็นก้อนกลมบนโต๊ะทาเนยขาวไว้บางๆ ใช้สันมือติดกับพื้น เรียงลำดับก้อนแป้งก่อนหลัง แล้วเอาผ้าคลุมเอาไว้
6. ใช้ไม้คลึงแป้งก้อนแรก ให้เป็นแผ่นวงกลม ใส่ไส้ประมาณ 1 สคูปไอศกรีม เส้นผ่นศุนย์กลางประมาณ 4 ซ.ม. จับจีบจนรอบวางบนกระดาษซาลาเปา
7. เรียงเอาไว้บนลังถึง เอาผ้าหรือแผ่นพลาสติกคลุมไว้ พักแป้งให้แป้งขึ้นเท่าตัว สังเกตผิงแป้งจะตึงตัว ให้นำไปนึ่ง
8. ต้มน้ำให้เดือดพล่าน แล้วลดไฟ นำลังถึงซาลาเปาที่ขึ้นได้ที่ ไปนึ่งนานประมาณ 10 นาที หรือจนสุก

ไส้หมูสับ
1. เนื้อหมูบด 125 กรัม (แช่เย็น)
2. มันหมูแข็งสับละเอียด 25 กรัม
3. แป้งมัน 1 ช้อนชา
4. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา
6. เหล้าจีน 1 ช้อนชา
7. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
8. เห็ดหอม 4 ดอก แช่น้ำแล้วหั่นเต๋า
9. รากผักชี 1 หัวใหญ่+ กระเทียม 4 กลีบ + พริกไทย 1/4 ช้อนชา โคลกรวมกัน
10. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
11. มันแกว 1/4 ถ้วยตวง (ปลอกเปลือก หั่นเป็นแว่น ต้มในน้ำเดือด 5 นาที ล้างด้วยน้ำเย็น สับละเอียด แล้วให้ผ้าซับน้ำให้แห้ง)
วิธีทำ
นำส่วนส่วนผสมทั้งหมด เทลงอ่างผสม นวดเนื้อหมูโดยใช้วิธีฟาดกับอ่างผสม เสร็จแล้วนำไปแช่ตู้เย็นช่องแช่เนื้อ(ใต้ช่องแช่แข็ง) แล้วนำมาทำเป็นไส้ซาลาเปา


วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วิธีทำสปาเก็ตตี้หมูสับ
สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศหมูสับ

ส่วนประกอบ

  • เส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุกแล้ว 2 ถ้วยตวง
  • เนื้อหมูสับ 1 ถ้วยตวง
  • มะเขือเทศแกะเม็ดออกสับ 1 ลูกใหญ่ ประมาณ 100 กรัม
  • หอมใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก ½ หัวเล็ก ¼ ถ้วยตวง
  • ซอสมะเขือเทศ ½ ถ้วยตวง
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนชา
  • ใบโหระพาสับ 5 ใบ
  • เนยสด 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไป คนให้เส้นจมน้ำหมดทุกเส้น หรี่ไฟอ่อนพร้อมปิดฝา ต้มประมาณ 20 นาที เช็คว่าสุกหรือไม่ (ลองหักดูว่า ข้างในเป็นสีเสมอกันหรือไม่ หากตรงกลางมีสีขาวๆ แสดงว่ายังไม่สุก) นำเส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุกแช่น้ำเย็นสักครู่ สะเด็ดน้ำออก นำไปคลุกกับน้ำมันพืช พักไว้
  • ตั้งกระทะให้ร้อนพร้อมใส่เนยสดและหัวหอมใหญ่ ผัดจนหอมสุก
  • นำหมูสับลงไปผัดพอสุก ใส่มะเขือเทศสับ ซอสมะเขือเทศ และพริกไทยผัดให้เข้ากัน
  • ปรุงรสด้วยคนอร์อร่อยชัวร์ และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน ใส่ใบโหระพาสับผัดให้เข้ากันจนสุก นำเส้นสปาเก็ตตี้ใส่จาน ตักซอสมะเขือเทศห���ูสับราดหน้า ตกแต่งด้วยใบโหระพาตามชอบพร้อมเสิร์ฟ

ดอกไม้ประจำวันเกิด